10 ไอเดียแต่งอย่างไรให้ลอฟต์
Posted: 2/12/2554 by Chow.Bangkok in ป้ายกำกับ: เกี่ยวกับบ้าน, ห้องพี่เชา, ไอเดียสไตล์ลอฟต์เกิดขึ้นในยุค 1950 ซึ่งผู้คนในสังคมเริ่มยอมรับแนวคิดของสไตล์โมเดิร์น และระบบการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมมีบทบาทอย่างมากกับการขับเคลื่อนสังคมในยุคนั้น ต่อมาในปลายยุค 1990 เริ่มมีโรงงานหรือโกดังร้างเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วในยุคก่อนหน้านี้ ผู้คนในยุคนั้นจึงเริ่มดัดแปลงนำอาคารเหล่านั้นมาใช้เป็นที่พักอาศัย ด้วยความเรียบง่ายของบ้านอารมณ์โรงงานจึงเกิดเป็นแนวทางของการตกแต่งในยุคถัดมา
แม้ปัจจุบันจะไม่ค่อยมีใครได้อยู่อาศัยในโรงงานแล้ว แต่เอกลักษณ์ของสไตล์นี้ยังคงปรากฏให้เห็นในงานตกแต่งภายใน สำหรับใครที่เป็นสาวกสไตล์ลอฟต์ คอลัมน์ “DesignIDEAS” ฉบับนี้มี 10 ไอเดียในการแต่งบ้านให้ได้อารมณ์ดิบๆเท่ๆมาฝากกันค่ะ
ไม่บังสายตา
บ้านสไตล์ลอฟต์ต้องโล่ง ไม่มีอะไรบดบัง ดังนั้นเราจะไม่มีวันเห็นตู้เก็บของสูงตรงกลางบ้าน หรือการกั้นพาร์ทิชั่นสูงๆในบ้านสไตล์นี้เด็ดขาด (ถ้ามีก็จะเป็นการกั้นชิดผนังมากกว่า) พื้นที่ต่างๆภายในบ้าน เช่น ส่วนรับแขก ส่วนทำงาน ส่วนรับประทานอาหาร จะจัดวางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นอย่างลงตัวเป็นส่วนๆไป โดยมีทางเดินเป็นตัวกั้นเขตพื้นที่ต่างๆแทน
โชว์โครงสร้างและโชว์ (ผิว) ดิบๆ
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างของสไตล์ลอฟต์คือการโชว์โครงสร้างแบบเปลือย ไม่ว่าจะเป็นเสาปูนเปลือย คานเหล็ก หรือผนังก่ออิฐโชว์แนว ซึ่งให้อารมณ์ดิบๆเท่ๆจนแทบไม่ต้องตกแต่งอะไรให้มากมาย นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านแล้ว ข้อดีอีกประการคือเมื่อมีปัญหาตรงส่วนไหนของบ้าน ก็สามารถมองเห็นได้ชัด ทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด อย่างไรก็ตามหากไม่อยากให้บ้านดูฮาร์ดคอร์เกินไป อาจเลือกโชว์เพียงแค่มุมเล็กๆก็ได้
โชว์งานระบบ
ไอเดียนี้ควรวางแผนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ไหนๆปกติงานระบบอย่างสายไฟ สายโทรศัพท์ สายอินเทอร์เน็ต มักเดินแบบร้อยท่อโลหะ (Electrical Metallic Tubing: EMT) อยู่แล้ว ก็โชว์ให้เห็นกันจะๆไปเลยไม่ต้องทำฝ้าปิดให้สิ้นเปลือง ส่วนเต้ารับเต้าเสียบก็ใช้แบบกล่องโลหะติดลอยยึดกับผนัง เท่านี้ก็ทำให้บ้านมีกลิ่นอายแบบโรงงานแล้ว หากใครอยู่คอนโด อาจเปลือยฝ้าโชว์ระบบป้องกันอัคคีภัยอย่างสปริงเกลอร์หรือสัญญาณเตือนภัยต่างๆ นอกจากจะทำให้ห้องดูสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นลูกเล่นการตกแต่งที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครด้วย
ฝ้าสูง
การมีฝ้าสูงก็เป็นอีกลักษณะหนึ่งของโรงงานหรือโกดัง หากนำมาประยุกต์กับบ้านก็อาจทำพื้นที่ชั้นล่างให้เปิดโล่งถึงชั้นลอย (Double Space) หรือพื้นที่ใต้หลังคาซึ่งอาจกรุฝ้าเพดานให้สูงเอียงไปตามโครงหลังคา การทำฝ้าเพดานสูงๆทำให้บรรยากาศในบ้านดูสว่างและช่วยให้อากาศภายในถ่ายเทได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้อาจติดพัดลมเพดานด้วยก็ได้ แต่ควรเลือกรูปแบบที่ให้อารมณ์แบบอินดัสเทรียลลุค ก็จะดูเข้ากันได้เป็นอย่างดี
แสงธรรมชาติและแสงไฟ
บ้านสไตล์ลอฟต์เน้นการเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติผ่านช่องเปิดแนวตั้งหรือช่องแสงด้านบน เพื่อสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงงานจริงๆ ในมุมที่อับและมืดอาจเลือกใช้โคมไฟเท่ๆแบบแขวนเพดานหรือแบบตั้งพื้น ช่วยเพิ่มแสงสว่างเป็นจุดๆ ก็ทำให้มุมนั้นๆดูน่าสบายมากขึ้น ข้อดีอีกอย่างของแสงไฟเฉพาะจุดคือช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกในยามค่ำคืน ทำให้บ้านดูไม่แข็งกระด้างเกินไป
หน้าต่างยักษ์
ด้วยลักษณะอาคารของโกดังหรือโรงงานที่ต้องสูงใหญ่พลอยทำให้หน้าต่างและช่องเปิดต้อมมีขนาดใหญ่ตามไป อาจนำไอเดียนี้มาใช้กับที่บ้านของคุณก็ได้ เพราะการเปิดรับแสงธรรมชาติและบรรยากาศรอบๆนอกจากจะช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว ยังช่วยให้อากาศภายในบ้านปลอดโปร่งและถ่ายเทได้สะดวก สำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเราอาจติดมู่ลี่เพิ่มในด้านที่ตรงกับทิศตะวันตก เพื่อกรองแสงแดดที่จ้าเกินไป ก็จะช่วยให้บ้านอยู่สบายมากขึ้น
บันไดเหล็ก
บันไดเป็นสิ่งจำเป็นในบ้านที่มีขนาดตั้งแต่สองชั้นขึ้นไป สำหรับบ้านสไตล์ลอฟต์อาจออกแบบเป็นบันไดวนหรือบันไดตรงที่เน้นโครงสร้างเหล็ก จะช่วยทำให้พื้นที่ในบ้านดูไม่อึดอัด และยังโชว์โครงสร้างเท่ๆให้เป็นส่วนตกแต่งอย่างหนึ่งของบ้านได้ด้วย ถ้าออกแบบวางผังดีๆอาจเพิ่มพื้นที่ใช้งานใต้บันได อย่างแพนทรี่ หรือมุมนั่งอ่านหนังสือ ก็จะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วย
สีอุตสาหกรรม
สีคลุมโทนหลักๆของสไตล์ลอฟต์จะประกอบด้วย 3 สี คือสีขาว สีเทา และสีดำ ซึ่งมาจากสีของวัสดุอุตสาหกรรมอย่างปูน สังกะสี และเหล็ก หากจะนำมาใช้อาจให้น้ำหนักของสีต่างกัน เพื่อสร้างมิติให้ห้อง แต่ถ้าใครไม่ชอบบ้านสีหม่น อาจเลือกทาสีขาวตรงส่วนผนังให้ดูสว่างสะอาดตา และส่วนอื่นๆเน้นความดิบจากสีของปูน หรือใช้เหล็กพ่นสีดำเฉพาะส่วนโครงสร้าง ก็จะได้บรรยากาศแบบโรงงานจริงๆ
โต๊ะตัวยาวๆ
โต๊ะตัวยาวๆใหญ่ๆเป็นเฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ที่ขาดไม่ได้ในบ้านสไตล์ลอฟต์ ควรเลือกวัสดุที่ให้อารมณ์แบบอุตสาหกรรม เช่น เหล็กหรือไม้ลายใหญ่ จัดวางเข้าชุดกับเก้าอี้กลางพื้นที่โล่งกว้างในบ้าน สำหรับเป็นมุมทำกิจกรรมร่วมกับคนในบ้าน ทำงาน หรือรับประทานอาหารได้ในตัวเดียว
เฟอร์นิเจอร์ตัวเบา
เหตุผลที่นิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ตัวเบาก็เพราะในยุคเริ่มแรกจะเป็นการเช่าโกดังหรือโรงงานเพื่อเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะจึงควรมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก หากเลือกมาใช้ในบ้านลองดูเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ยกย้ายไปวางตามมุมต่างๆของบ้านได้ง่าย มีดีไซน์เรียบเท่ อาจเป็นวัสดุไม้หรือเหล็กก็ได้ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่งโดยรวมของบ้าน
เรื่อง : “Roo”
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน และนิตยสาร room